
MARIMEKKO
ศิลปะโฉ่งฉ่างฉบับฟินแลนด์
เรียบง่ายและคลาสสิก
ลองหลับตาแล้วนึกถึงภาพเมืองที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะอันหนาวเหน็บ ชาวเมืองยากจนและอดอยากจากผลกระทบของสงครามโลก เมืองที่ถูกกลืนตัวตนจากการต้องอยู่ภายใต้อานัติของ 2 ประเทศทรงอำนาจในขณะนั้น เมืองนี้คงจะเป็นเมืองสีเทาหม่นที่ไร้ชีวิตชีวา แต่กลับมีงานศิลปะของดีไซเนอร์กลุ่มหนึ่งที่มาเติมสีสันให้ชีวิตของชาวเมืองอีกครั้งหนึ่ง ถ้านึกภาพตามไม่ออก ให้ลองนึกถึงดอกป๊อปปี้สีแดงอมส้มที่กำลังบานสะพรั่งท่ามกลางหิมะดู นั่นแหละคือ ‘ Marimekko ’

‘สีสัน’ ที่คืนชีวิตให้ชาวฟินแลนด์
‘Marimekko’ (มารีเมกโกะ) ไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่โด่งดังในขณะนี้ เปรียบเสมือนนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะที่สะท้อน ‘ตัวตน’ ในช่วงที่ ประเทศฟินแลนด์ กำลังค่อยๆ ฟื้นตัวหลังจากผลกระทบของสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ในช่วงนั้นฟินแลนด์ยังเป็นเพียงประเทศนอกสายตาของชาวโลก เหตุเพราะถูกปกครองโดยประเทศนอร์เวย์และสวีเดนมานานนับ 10 ปี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประเทศฟินแลนด์แทบจะไม่มีงานศิลปะหรือวัฒนธรรมอื่นใดมาเพื่อคลายความหนาวและความอ้างว้างให้ประชาชนได้เลย

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1949 Viljo และ Armi Ratia คู่สองสามีภรรยาได้เลือกใช้โรงงานทอเสื่อน้ำมัน ก่อตั้งบริษัท Printex เพื่อสร้างผลงานศิลปะบนลายผ้าขึ้น โดยจ้างศิลปินและดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่มาออกแบบลวดลายบนผืนผ้าให้มีสีสันสะดุดตาและโดดเด่น แต่การออกแบบ Pattern สีสันฉูดฉาดลงบนผืนผ้าเพียงอย่างเดียวก็ดูยากเกินกว่าจะนำไปเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันได้ Armi จึงตัดสินใจเปิดตัวคอลเลกชั่นเสื้อผ้าภายใต้ลวดลายเหล่านี้ขึ้น และแน่นอนว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชาวฟินแลนด์มีหัวใจที่สูบฉีดขึ้นมาอีกครั้ง จนทำให้เสื้อผ้าคอลเลกชั่นแรกของเธอได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม เล่ากันว่าชุดทั้งหมดถูกจองจนหมดหลังจากที่นางแบบเดินออกจากรันเวย์ ทำให้ไม่กี่วันหลังจากนั้นทั้งสองสามีภรรยาจึงก่อตั้งบริษัทชื่อว่า ‘Marimekko’ ขึ้นมา ซึ่งหมายถึง Marry-dress นั่นเอง

ดอกอูนิกโกะ (Unikko)
ลวดลายจาก ‘ใจบันดาลแรง’
แม้ว่า Armi จะย้ำแล้วย้ำอีกกับเหล่าดีไซเนอร์ว่า Marimekko จะไม่มีวันออกคอลเลกชั่นที่เป็นลายดอกไม้ เพราะท่ามกลางความหนาวของหิมะ ที่นานๆ ทีจะมีความสดใสของธรรมชาติออกมาให้ชาวฟินแลนด์มองเห็นสักที มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสามารถถ่ายทอดลายละเอียดความงดงามของดอกไม้ออกมาได้เหมือนกับธรรมชาติ และอีกเหตุผลหนึ่งคือ เธอคิดว่าลายดอกไม้เนี่ย ใครๆ เขาก็ทำกัน แถมมันยังดูเชย ซึ่งคาดว่าต้องตกยุคเร็วอย่างแน่นอน
แต่แล้ว ลายดอกไม้ที่กลายเป็น Iconic Pattern ทุกวันนี้มันมาได้ยังไง?

คำตอบอยู่ที่ดีไซเนอร์สาวหัวขบถ ‘Maija Isola’ ผู้ออกแบบลวดลายนี้เอาไว้ตั้งแต่ช่วงปี 1960s ย้อนกลับไปในช่วงที่เธออายุเพียง 22 ปี มีดีกรีเป็นพนักงานคนแรกของบริษัท Printex ผู้ออกแบบผลงานที่มีแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ลายออกแบบของเธอทำให้แบรนด์โด่งดังอย่างมาก และเมื่อเธอได้ยินคำสั่งห้ามทำลายดอกไม้ของ Armi แล้ว กลับยิ่งลงมือออกแบบลายดอกไม้เป็นสิบๆ ลาย

ซึ่งหนึ่งในลายที่มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบันคือลายดอกอูนิกโกะ (Unikko) ที่หมายถึงดอกป๊อปปี้ในภาษาฟินนิช โดยเวอร์ชั่นดั้งเดิมจะต้องมีดอกสีชมพูและแดง ก้านสีดำ บนพื้นหลังสีขาวนั่นเอง

งานศิลปะที่รองรับไลฟ์สไตล์
ของคนทุกเพศทุกวัย
กว่า 60 ปี ของงานดีไซน์ที่สร้างสีสันให้แก่ชาวฟินแลนด์ ปัจจุบัน Marimekko ไม่ได้มีแต่เพียงเสื้อผ้าเท่านั้น เพราะเขาได้ออกแบบสินค้าสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งกับชีวิตของคุณได้ตั้งแต่ตื่นนอน โดยเน้นว่าสินค้าทุกตัวจะต้องใช้งานได้จริง มีกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน และสามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของคนทุกเพศทุกวัยได้ อย่างสินค้าประเภทเครื่องครัว อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เครื่องเขียนรวมถึงกระเป๋าผ้า

นอกจากนี้สินค้าประเภทเครื่องแต่งกายยังคงตอบโจทย์ความคลาสสิกของแบรนด์ มั่นใจได้เลยว่า Pattern การตัดเย็บเสื้อผ้าของ Marimakko จะทำให้คุณสามารถหยิบเสื้อผ้าทุกตัวออกจากตู้มาสวมใส่ได้ทุกครั้งอย่างไม่ต้องกลัวตกยุค อีกทั้งลวดลายและสีสันที่ฉูดฉาด ก็ไม่ได้เป็นกำแพงที่คอยแบ่งแยกเพศและอายุแม้แต่น้อย อย่างเช่นคอลเลกชั่นเสื้อผ้า Unisex ที่แฝงความขบถของแบรนด์เอาไว้ ทำให้ Marimekko เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่สามารถสวมใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย


เพราะความสวยงามที่เห็นจาก
สองตาสามารถเป็นงานศิลปะได้
จากแนวคิดด้านการออกแบบว่า ‘Design is inspired by beautiful everyday life.’ ได้สะท้อนให้เห็นความหนาวเหน็บและความยากจนในอดีตที่ขับเคลื่อนจนเป็นพลังให้ Marimekko กลายเป็นแบรนด์ที่มองโลกตามความเป็นจริงแต่เป็นมุมที่สวยงาม มองธรรมชาติอย่างที่มันเป็น และนำแรงบันดาลใจจากความสวยงามนั้น มาสร้างสรรค์เป็นผลงานที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย ทว่าฉูดฉาดและโดดเด่น ด้านที่แสดงถึงความแตกต่างระหว่างการออกแบบกับฟังก์ชั่นของการใช้งานนี้เอง ที่ทำให้งานศิลปะของ Marimekko อยู่เหนือกาลเวลา ดังพิสูจน์ให้เห็นได้จากดอกไม้ที่เคยถูกมองว่าเชยและตกยุค กลับยังคงเป็นดอกไม้ที่บานสดใสและมีชีวิตชีวาจวบจนปัจจุบัน
ที่มา:
www.marimekko.com
http://www.tcdc.or.th/marimekko/
https://dsignsomething.com/marimekko/