
Lucky Stone หินมงคล
ไอเทมสำหรับคนอยากมีโชค
จริงๆ แล้วความเชื่อเรื่อง ‘หินมงคล’ ในประเทศไทยนั้นมีมานานกว่า 10 ปี แต่เพิ่งได้รับความนิยมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ด้วยการเจียระไน รูปทรงที่ดูเก๋ แถมยังมีความมินิมอลมากขึ้น ทำให้หินมงคลดูทันสมัย เข้าถึงง่าย และดูหรูหรามีราคามากกว่าในสมัยก่อน ทั้งยังมีการดัดแปลงนำเอาไปทำเป็นเครื่องประดับหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแหวน สร้อยคอ กำไล หรือแม้แต่ต่างหู เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่เหมาะกับคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่ช่วยเสริมลุคให้ดูดีและมีสไตล์ แต่ยังช่วยเสริมดวง สร้างความสบายใจ และตอบโจทย์ความเชื่อของคนไทยได้เป็นอย่างดี วันนี้ TipsDD เลยจะพาทุกคนมารู้จักกับความหมายของหินมงคลแต่ละชนิด ถ้าใครอยากเสริมดวงในเรื่องอะไร ก็เลือกใส่หินสีให้เหมาะและถูกใจกับตัวเองกันได้เลย เพราะหินแต่ละชนิดล้วนมีความหมายมงคลที่แตกต่างกัน

โรสควอตซ์ (Rose Quartz) หินแห่งความรักและการให้อภัย
โรสควอตซ์หรือที่เรียกกันว่า ‘ควอตซ์กุหลาบ’ เป็นหินสีชมพูอ่อนคล้ายกับกลีบกุหลาบ มีลักษณะโปร่งใสและโปร่งแสง ว่ากันว่าเป็นหินมงคลที่มีพลังของเพศแม่ คือจะเปี่ยมไปด้วยความรักและการให้อภัย ทั้งยังช่วยหนุนในเรื่องความอบอุ่น ความอ่อนโยน และมิตรภาพ ถ้าผู้หญิงครอบครองจะทำให้มีความนุ่มนวลอ่อนหวาน แต่หากเป็นผู้ชายจะช่วยทำให้ใจเย็นมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยในเรื่องความสัมพันธ์ ช่วยให้ผู้ใส่รู้จักการให้อภัยและแก้ปัญหาความบาดหมางต่างๆ แถมยังเป็นหินที่มีพลังอำนาจบวกซ่อนอยู่ ซึ่งจะช่วยสร้างเสน่ห์ ช่วยเสริมดวงชะตาความรัก และทำให้คู่รักสามารถครองคู่กันได้มั่นคงยาวนาน

โรโดโครไซต์ (Rhodochrosite) หินแห่งการรักษาแผลใจจากความรัก
ลักษณะทั่วไปของหินชนิดนี้คือจะมีสีชมพูและมีริ้วสีขาว ตามความเชื่อในเรื่องหิน โรโดโครไซต์จะช่วยบำบัด เยียวยา และรักษาแผลใจของผู้ที่ผิดหวังในความรัก ในขณะเดียวกันก็ช่วยดึงดูดความรักและความผูกพันให้มาสู่ผู้ที่ครอบครองอีกด้วย ถือเป็นหินที่ช่วยเสริมสมดุลทางความรักและความเมตตาได้เป็นอย่างดี ผู้ที่อกหักและถูกทิ้งนั้นจะสมหวังในความรัก แต่สำหรับคู่รักทั่วไปหินมงคลนี้จะทำให้รักกันยาวนานยิ่งขึ้น เพราะมีพลังด้านบวกในเรื่องความสามัคคีปรองดองและความถูกต้อง

มูนสโตน (Moonstone) หินแห่งปัญญาและความอ่อนโยน
มูนสโตนเป็นหินสีขาวขุ่นที่มีความแวววาวเหมือนน้ำนม และมีเนื้อนวลสีหมอกมัวเหมือนกับแสงจันทร์ เป็นหินมงคลที่ช่วยดึงดูดเพศตรงข้ามและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ เพราะมีพลังหยินที่อ่อนโยนซ่อนอยู่ ทั้งยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความรุ่งเรือง ความรัก และความสงบร่มเย็น มีส่วนช่วยในการระงับความโกรธ และเพิ่มความสมดุลทางอารมณ์สำหรับผู้ที่อ่อนไหวง่าย นอกจากนั้นชาวโรมันยังเชื่อว่ามูนสโตนจะเสริมโชคในเรื่องความเฉลียวฉลาด ช่วยให้เจ้าของมีสติ มีปัญญาในการแก้ไขปัญหา และนำมาซึ่งความผาสุก

ลาริมาร์ (Larimar) หินแห่งความรักและสันติสุข
หินมงคลสีฟ้าอมเขียวคล้ายกับสีน้ำทะเลแคริบเบียน เชื่อว่าเป็นหินที่จะนำความรัก และสันติสุขมาให้แก่ผู้ที่ครอบครอง เป็นบ่อเกิดแห่งความหวังและความอดทน ช่วยขจัดความแค้น ความโศกเศร้า และพลังด้านลบที่มีอยู่ในจิตใจ ในขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมพลังแห่งสมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ และนำพาความสงบสุขร่มเย็นมาสู่จิตใจ ทั้งยังช่วยเรียกพลังดีๆ ด้านความรัก การสื่อสารพูดคุย แถมยังช่วยผ่อนคลายความเจ็บปวด ความกลัว หรือความรู้สึกหดหู่ใจได้อีกด้วย

รูทิลเลท ควอตซ์ (Rutilated Quartz) หินแห่งความแข็งแกร่งและโชคลาภ
อีกหนึ่งหินมงคลที่เป็นตัวแทนของความแข็งแกร่งและโชคลาภ ลักษณะเด่นของหินชนิดนี้คือจะมีเส้นไหมกระจายอยู่ในเนื้อหิน เชื่อว่าผู้ที่ได้ครอบครองรูทิลเลท ควอตซ์ จะมีความเชื่อมั่น มีความกระตือรือร้น และมองโลกในแง่ดี เนื่องจากเป็นหินที่นำเอาพลังอำนาจและบารมีมาสู่ผู้ที่เป็นเจ้าของ นอกจากจะช่วยหนุนเรื่องความเมตตาและส่งเสริมพลังงานสุขภาพแล้ว ยังจะช่วยปกป้องคุ้มครองให้รอดพ้นจากอันตรายอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นหินชนิดนี้ยังมีพลังอำนาจในการป้องกันคุณไสย และมีส่วนช่วยเรื่องความมั่งคั่งร่ำรวยอีกด้วย

อเมทิสต์ (Amethyst) หินแห่งการปัดเป่าและบำบัด
อเมทิสต์ หินมงคลที่มีตั้งแต่สีม่วงอ่อนไปจนถึงสีม่วงเข้มหรือม่วงแดง มีความโปร่งใสและมองเห็นภายใน สะท้อนความรู้สึกเคร่งขรึม ลึกลับ มีอำนาจ และสง่างาม ในสมัยก่อนเชื่อกันว่าหินชนิดนี้จะช่วยบำบัดผู้ที่มีความรู้สึกสับสนวุ่นวาย ช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับและแก้อาการฝันร้าย นอกจากอเมทิสต์จะเคยเป็นเครื่องประดับของพระมหากษัตริย์ คือทั้งโมเสสหรือฟาโรห์แล้ว หินสีม่วงนี้ยังมีพลังช่วยให้จิตใจผู้ครอบครองสงบและอ่อนโยนอีกด้วย ช่วยกำจัดอารมณ์ด้านลบและความโมโหร้าย ทั้งยังช่วยทำให้เกิดความเที่ยงธรรมภายในจิตใจของผู้เป็นเจ้าของ

ลาพิส ลาซูลี (Lapis Lazuli) หินแห่งสติปัญญาและการปกป้องคุ้มครอง
หินมงคลสีน้ำเงินเข้มที่มีประกายทองเล็กๆ บนเนื้อหิน ตามความเชื่อแล้วลาพิส ลาซูลีนั้นจะมีพลังในการปกป้องคุ้มครองเจ้าของจากภยันตราย และมีอำนาจในการสลายมนต์ดำตลอดจนคุณไสยต่างๆ นอกจากนั้นยังจะช่วยสร้างสติปัญญาและสมาธิให้กับผู้ที่ครอบครอง ทำให้มีพลังความคิดอันยอดเยี่ยม เพิ่มมุมมองเชิงบวก และสลายพลังงานลบออกจากจิตใจ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมบารมีและอุดรูรั่วทางการเงิน แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่น ทำให้รู้จักการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล สร้างความหวัง และช่วยทำให้ชีวิตสุขสบายยิ่งขึ้น

เทอร์ควอยซ์ (Turquoise) หินแห่งอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์
เทอร์ควอยซ์ หินมงคลเนื้อร่วนซุยที่มีลวดลายเส้นสีน้ำตาลดำ โดยจะมีตั้งแต่สีฟ้าสดไปจนถึงสีเขียวอมเทา บ้างก็เรียกหินชนิดนี้ว่า ‘หินสีเขียวไข่กา’ นอกจากจะเป็นเครื่องรางแห่งความรักของชาวยุโรปแล้ว เทอร์ควอยซ์ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งท้องฟ้าของชาวอินเดียแดงอีกด้วย มีความเชื่อว่าผู้ใดที่ได้เป็นเจ้าของหินสีเขียวไข่กานี้จะมีความสุข มีโชคลาภ และมีพลังอำนาจ ช่วยให้ผู้ที่ครอบครองได้รับความปรารถนาดีและความซื่อสัตย์ นำมาซึ่งความราบรื่นในชีวิต ทั้งยังจะช่วยเสริมเรื่องความรัก ความเมตตา และปกป้องคุ้มครองเจ้าของจากอันตรายต่างๆ

วิธีการสังเกต ‘หินมงคล’ ของแท้
1. ภายในหินแท้นั้นจะไม่มีฟองอากาศด้านใน หากเป็นของปลอมที่ทำมาจากแก้วและเรซิ่นจะมีฟองอากาศขนาดเล็กอยู่ภายใน
2. ลวดลายของหินแท้แต่ละเม็ดนั้นจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเป็นหินของปลอมจะมีลวดลายสม่ำเสมอกันทุกเม็ด
3. เมื่อหินกระทบกันจะได้ยินเสียงเหมือนก้อนกรวดในแม่น้ำที่กระทบกัน
4. หากนำหินไปตากแดดแล้วนำมาสัมผัส หินปลอมจะดูดความร้อน ในขณะที่หินแท้จากธรรมชาติจะยังคงมีความเย็นอยู่
5. หินปลอมจากแก้วและพลาสติกจะมีเส้นไหลภายใน ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับลายเชื่อมที่เกิดจากการหลอมด้วยความร้อน แต่หินแท้จากธรรมชาติจะไม่เป็นแบบนั้น
หินมงคลนั้นเป็นอีกหนึ่งเครื่องประดับที่จะช่วยเสริมลุคให้ดูดี แต่ก่อนที่จะเลือกซื้อหินมงคลแต่ละชนิด ควรที่จะศึกษาเรื่องหินให้ดีและถี่ถ้วนก่อน เพื่อที่จะได้ไม่หลงซื้อหินของปลอมที่มีขายอยู่มากมายในท้องตลาด